" ในความเหมือนย่อมมีความแตกต่าง และในความแตกต่างย่อมมีความเหมือน "
ใครเป็นคนกล่าวข้อความข้างต้น จำไม่ได้แล้ว แต่ที่นำมาเริ่มเรื่องที่จะเขียนให้อ่านกัน ก็เพราะว่า ชาย-หญิง มักจะคิดต่างกัน และปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือไม่ยอมรับในความแตกต่างทางความคิดนั้นๆ รวมทั้งพยายามให้อีกฝ่ายมีคามคิดเห็นให้ตรงกับตนเอง ปัญหาจึงเกิดขึ้น...สัมพันธภาพจึงไม่ราบรื่น เหมือนที่ควรจะเป็น!
...เรื่องของความรัก...
ผู้ชายและผู้หญิงต้องการความรักเหมือนกัน แต่มองความรักและการแสดงออกของความรัก คนละมุมมอง ผู้หญิงต้องการความรัก ความอบอุ่น ความมั่นคง ความจริงใจ ความสม่ำเสมอจากชายคนรัก เธออาจจะรักเขายากแต่เมื่อเธอรักเขาแล้ว เธออยากจะให้เขารักเธอและเป็นของเธอตลอดไป จนบางครั้งอาจจะแสดงอาการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างออกนอกหน้า ลืมไปว่า ผู้ชายนั้นโดยพื้นฐานแล้วเป็นคนรักอิสระ ผู้ชายทุกคนหรือส่วนใหญ่ ใฝ่ฝันที่จะแสวงหาอะไรที่แปลกใหม่ในชีวิต ที่ท้าทาย น่าลองเสี่ยง ผู้ชายจึงเป็นนักผจญภัย หัวก้าวหน้า แต่คุณผู้หญิงเป็นคนหัวอนุรักษ์นิยม!! พอเริ่มจะรักกันใหม่ๆ ผู้ชายมักจะกลัวว่าผู้หญิงจะไม่รัก จึงเฝ้าเช้าเฝ้าเย็น ทำทุกอย่างเพื่อที่จะเอาชนะใจเธอให้ได้ ให้เธอรับรักและยอมเป็นของเขา
หลังจากเธอเป็นของเขาทั้งกายและใจแล้ว...เพราะเธอรักเขา เธอเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของเขา เขาอาจจะเอาใจเธอน้อยลง สนใจเธอน้อยลง สนใจงานและเพื่อนฝูงมากขึ้น ทำอะไรไม่สม่ำเสมอเหมือนเดิม เธอแปลผลว่า เขาเปลี่ยนไปเพราะเขาอาจจะรักเธอน้อยลงแล้ว!!
บางคนแอบน้อยใจเงียบๆ บางคนฟูมฟาย บางคนอาละวาด แต่บางคนเฉยๆ เพราะเธอเข้าใจเขา เข้าใจว่า เขายังคงรักเธออยู่ แต่เมื่อเขาได้เธอทั้งกายและใจแล้ว เขาก็เกิดความสบายใจและมั่นใจว่า เธอเป็นของเขาคนเดียว เรื่องที่จะเอาใจเธอ จึงไม่เป็นที่สนใจของเขามากนัก... แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รักเธอ เขายังคงรักเธอเสมอ เพียงแต่อาจจะพูดถึงน้อยลง
วิธีการที่คุณผู้หญิงจะแน่ใจว่าเขายังรักเธออยู่เสมอ... ก็คือถามเขาว่ายังรักเธออยู่หรือไม่ เขาจะตอบว่า ผมรักคุณเสมอ เมื่อได้ยินแล้วก็ขอให้เชื่อใจเขาเถิด จริงอยู่ที่มีคำพูดเสมอๆ ว่า ผู้ชายน่ะรักง่าย หน่ายเร็ว ที่จริงคำอธิบายก็คือ ผู้ชายน่ะชอบอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้าง ไม่ชอบอะไรที่เหมือนเดิม คุณทั้งสองที่ใช้ชีวิตคู่กันจึงต้องพยายามทำตัวให้เป็นคู่รักกันเสมอ... จำไว้นะครับว่า ทำตัวเป็นคู่รักกัน ไม่ใช่สามีภรรยากัน เพราะสามีภรรยากันมักจะหึงหวง ใช้อารมณ์เข้าหากันบ่อย ถกเถียงกันบ่อย แต่คู่รักกันจะยังคงหวานแหววอยู่เสมอ ลองทำอะไรที่เหมือนคนรักทำกันบ้าง เช่น นัดทานอาหารค่ำใต้แสงเทียน ชวนกันไปล่องเจ้าพระยา นั่งชมจันทร์ริมทะเล ฯลฯ ที่คุณเคยทำยามรักกันใหม่ๆ แล้วทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงก็จะสามารถจับต้องความรักที่ทั้งสองฝ่ายแสวงหาได้
แน่นอนต้องจำไว้เสมอๆ ว่า ถ้าจะอยู่กับผู้หญิงให้มีความสุข ขอให้รักเธอให้มากมาก และพยายามเข้าใจเธอให้น้อยๆ และถ้าคุณผู้หญิงอยากจะอยู่กับชายคนรักให้มีความสุขไม่เหงาแล้วละก็ ขอให้รักเขาน้อยๆ แต่เข้าใจเขาให้มากๆ รวมทั้งต้องพยายามหูหนวก และตาบอดในบางเรื่องบ้าง อย่าให้ผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย ปล่อยข่าวที่ทำให้รักของคุณร้าวฉาน เพราะถ้าเป็นรักที่เข้าใจในรักแล้ว...อะไรก็มีความสุข ผมรู้จักคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง เดี๋ยวนี้อายุจะ 50 ปีแล้ว ก็ยังหวานแหววกันอยู่เสมอๆ เวลาเจอกัน เขาและเธอก็จะพูดจากันเหมือนเวลารักกันใหม่ๆ ชวนกันไปทำอะไรที่หนุ่มสาวทำกัน คิดอย่างหนุ่มสาว วันหนึ่งมีเพื่อนผู้หวังดีโทรศัพท์ไปหาเธอว่า หมู่นี้สังเกตว่าสามีควงสาวนั่งหน้ารถไม่ซ้ำหน้าเลย ระวังหน่อยนะ เธอตอบกลับว่า ซ้ำหน้าเมื่อไรค่อยโทรมาบอกอีกทีก็แล้วกัน ถ้ายังไม่ซ้ำหน้าก็ไม่เป็นไร ที่จริงเป็นเพราะเธอรู้ดีว่า สามีของเธอเป็นคนใจดี มักจะรับลูกน้องไปส่งตามป้ายรถเมล์ ที่สามารถเดินทางต่อเดียวถึงบ้าน และลูกน้องของสามี ทุกๆ คนก็รู้จักเธอ ด้วยเหตุนี้แหละครับ ถ้ารักกันต้องพยายามเข้าใจกันและหาเหตุหาผลอย่าใช้อารมณ์