ต้านภัยเศรษฐกิจ กอบกู้ชีวิตสมรส

ข่าวเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันขัดแย้งกันในประเด็นที่ว่า เศรษฐกิจตกต่ำถึงที่สุดแล้วหรือยัง เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้นแล้วจริงหรือไม่ ความเห็นที่แตกต่างกันออกไปก็คงจะขึ้นกับสภาพของแต่ละบุคคล และขึ้นกับว่าผู้นั้นมองปัญหาอยู่ ณ จุดใด ผู้ที่ยังตกงานอยู่ ผู้ที่ยังไม่สามารถเพิ่มรายได้ให้ตนเองและครอบครัว ผู้ที่ยังไม่สามารถกอบกู้ฐานะของบริษัทหรือองก์กรของตนได้ ก็คงจะมีความเห็นว่า เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว

ในการฟันฝ่าอุปสรรค กอบกู้ฐานะ กอบกู้เศรษฐกิจนี้ หากมีปัญหาในครอบครัว มีปัญหาในชีวิตสมรส ก็ยิ่งจะเป็นเครื่องบั่นทอนสุขภาพจิต สุขภาพกาย และประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอาจเป็นโอกาสวิกฤติที่บุตรหลานหรือวัยรุ่นในครอบครัวถูกทอดทิ้ง ก่อปัญหานักศึกษาทำร้ายกัน ปัญหายาเสพย์ติด ปัญหาการศึกษา และปัญหาสังคมอีกมากมาย

ชีวิตสมรสประกอบด้วยคนสองคนที่มีลักษณะเฉพาะ มีพื้นฐานนิสัยใจคอ ความคิด จิตใจ ฯลฯ ของตนเองเมื่อมาอยู่ด้วยกัน จึงเกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นได้ และถือเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ บางปัญหาเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางปัญหาเป็นเรื่องใหญ่ขนาดทำให้ครอบครัวล่มสลายได้ คู่สมรสทั้งหลายจึงควรถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องเรียนรู้วิธีการจัดการ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง เพื่อช่วยกันประคับประคองชีวิตคู่ให้ยั่งยืนต่อไป

ถ้าหันมามองทางด้านเด็กหรือวัยรุ่นในครอบครัวจะพบว่า โดยทั่วไปพ่อแม่มีเวลาน้อยในการดูแลเอาใจใส่ลูกๆ เนื่องจากภาวะการงานที่ต้องรับผิดชอบ

สิ่งที่พ่อแม่ทดแทนให้กับลูกๆ คือ การยอมตามใจลูกๆ อย่างไร้ขอบเขต การให้แต่วัตถุแต่ความอบอุ่นใจ เป็นสิ่งที่ขาดหายไป ยิ่งถ้าหากพ่อแม่เกิดการหย่าร้างกันแล้ว

สิ่งที่ลูกได้รับก็คือ การทอดทิ้งไม่เอาใจใส่ หรือมีการให้ความรัก เอาใจใส่ปกป้องจนเกินไป

โดยพื้นฐานเดิมที่ครอบครัวมีครบ ทั้งพ่อแม่ลูก เด็กยังได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ไม่สมบูรณ์ ยิ่งหย่าร้างกันแล้วสภาพของเด็กจะเป็นอย่างไร อาจกล่าวได้ว่า เด็กที่มาจากครอบครัวหย่าร้าง ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยใดก็ตามต้องเผชิญกับปัญหาหลายประการ ล้วนแต่มีผลกระทบทางด้านอารมณ์ สังคม และจิตใจของเด็กอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจของเด็กๆ ตลอดเวลาก็คือ ความรู้สึกปวดร้าว เศร้าใจ ซึ่งอาจมีผลต่อสุขภาพจิตของเด็กได้ หากบุคลิกภาพของเด็ก เป็นคนมีลักษณะเข้มแข็ง ยอมรับความเป็นจริง มีความมั่นคงทางอารมณ์ และมีความสามารถในการปรับตัว รวมถึงมีสิ่งแวดล้อมที่ดี เด็กนั้นอาจรอดพ้นจากการมีปัญหาสุขภาพจิต

จากการศึกษาของนักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา โดยศึกษาจากกลุ่มให้การปรึกษาสตรีที่มีปัญหาชีวิตสมรสได้พบว่า ปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตสมรสเกิดจาก

ผิดความคาดหวังที่ได้สร้างไว้ระหว่างกันทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย ก่อนที่จะทำการแต่งงาน

ความมีทิฐิเชื่อมั่นฝ่ายตนถูก อีกฝ่ายหนึ่งผิด ไม่ยอมลงให้กันและกัน กลัวเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี

การไม่พูดจาให้เข้าใจกัน ไม่ปรับตัวเข้าหากัน บางคน นึกจะพูดอะไรก็สักแต่พูด พูดไปตามอารมณ์ พูดไปตามความต้องการ หรือความโกรธ ไม่ได้นึกเสียด้วยซ้ำว่าจะกระทบกระเทือนใคร ว่าสิ่งที่ต้องการแท้จริงยิ่งใหญ่ในชีวิตสมรสคืออะไร ทำให้แตกแยกในความคิดจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

การใช้ความรุนแรงในครอบครัวอาจ รุนแรงถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้ง และถ้าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธจัด และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กล่าวคำยั่วยุ จนอีกฝ่ายหนึ่งทนไม่ได้ เกิดการทำร้ายทุบตีกันขึ้น นำมาซึ่งปัญหาหย่าร้าง

การนอกใจกัน เป็นปัญหาอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในชีวิตคู่ ที่อาจนำไปสู่การแตกแยกหย่าร้างในที่สุด หลายคนเฝ้าวอนถามคู่สมรสว่า "ฉันไม่ดีตรงไหน" "ฉันผิดตรงไหน" คำตอบก็คือ "เปล่า ไม่ใช่คุณไม่ดี" แต่พลาดพลั้งไปด้วยเหตุผลต่าง ๆ ซึ่งเป็นอุบัติเหตุในชีวิตสมรส

อย่างไรก็ตามมีภาระเสี่ยงบางประการที่อาจนำไปสู่การนอกใจ ซึ่งจะพบได้ในกรณีต่อไปนี้

คู่สมรสที่มีความขัดแย้งไม่เข้าใจกันอยู่แล้ว บังเอิญมีบุคคลที่สามก้าวแทรกเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

การแยกกันอยู่ด้วยเหตุผลความจำเป็นใด ๆ ก็ตาม

การที่มีฐานะทางสังคมแตกต่างกันมากอาจนำไปสู่การไม่ยอมรับ ซึ่งกันและกันในภายหลัง

ความไม่เข้าใจในเรื่องเพศกับชีวิตสมรสได้แก่

  • ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ด้วยคิดว่า อายุมากแล้ว และเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ

  • การไม่มีความสุขทางเพศ และไม่สนใจพัฒนาตนเอง ในเรื่องนี้

  • ภาวะสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเกรงใจที่จะยุ่งเกี่ยวทางเพศ และไปหาจากคนอื่น

    คนนิสัยเจ้าชู้ ที่ชอบเอาเปรียบทางเพศ แสวงหาความสุขไปเรื่อย โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ของใคร ขอแต่ให้ตนเป็นสุขก็พอ

    คณะนักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ยังได้เตือนไว้ว่า สัญญาณอันตรายที่พึงระวังอาจจะเกิดการนอกใจขึ้นได้ในเวลานี้

    เมื่อมีการพูดทีเล่นทีจริงบ่อยครั้งว่า ขอมีใหม่อีกสักคน (ซึ่งปกติไม่เคยพูด) คู่สมรสที่ไม่เข้าใจสัญญาณนี้ ก็อาจจะตอบเล่นไปด้วย "ไปเลย จะแถมเงินให้ด้วย" หรือ "คนอย่างคุณใครเขาจะอยากได้" กลายเป็นการสบประมาทเขาไปโดยไม่รู้ตัว

    คู่สมรสขออนุญาตเอาเด็ก (ผู้ช่วยแม่บ้าน) มาช่วยทำงานในบ้าน ให้พึงสงสัยไว้ก่อนว่าจะไม่ชอบมาพากล

    เมื่อคู่สมรสมีการปฏิบัติทางเพศที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ไม่สนใจการมีเพศสัมพันธ์เหมือนเคย แสดงความเบื่อหน่าย ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่การแสดงท่าทีไม่อยาก ให้แตะเนื้อต้องตัว

    กลับบ้านผิดเวลาบ่อยครั้ง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือบอกกล่าวเหตุผลว่า ไปโน่นมานี่ แต่ไม่ได้ไปตามที่บอกไว้ พอมีการพูดคุยซักถาม ก็แสดงความหงุดหงิด โมโหขึ้นมาทันที

    ใช้เงินเปลืองผิดปกติ หรือลด งดการช่วยเหลือการเงินในครอบครัว

    เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลแบบนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจำเป็นต้องรีบพัฒนาตนเองทุกรูปแบบวิธีการ เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรค ดีกว่าจะปล่อยไว้จนสายเกินแก้ อย่าปล่อยให้ภัยเศรษฐกิจทำลายชีวิตสมรส ในทางกลับกัน ชีวิตสมรสที่ดี ครอบครัวมีสุขจะทำให้เกิดแรงใจ แรงกาย แรงสติปัญญา นำชีวิตในก้าวหน้า ฟันฝ่าภัยเศรษฐกิจไปได้